งู
ไทย, 115 นาที, 2563, ไทย บรรยายภาษาอังกฤษ
เมื่อก้าวทะลุกระจกเงา ซึ่งในบริบทนี้คือโปสเตอร์เมืองไทยเมืองทองของ ททท. ไปยังนรกบ้านนา ที่ถูกครอบงำปกครองโดยความชั่วร้ายร้อยเล่ห์นานารูปแบบ ทั้งประเภทอีแอบซ่อนเร้นและชนิดทึ่มหยาบ เรามาสู่ชุมชนริมน้ำแสนสวยพร้อมเสียงโห่ฮิ้ว ขณะที่ชาวบ้านแต่งตัวสวยหล่อมารอรับสมภารองค์ใหม่ของเขา : หนุ่ม, หล่อ, และผุดผ่องด้วยความศักดิ์สิทธิ์ในจีวรสุดเนี้ยบ ท่านยิ้มละไมอยู่กลางขบวนแห่เรือที่ลอยล่องมา โดยคณะต้อนรับที่ท่าน้ำนั้นนำโดยกำนันหนวดโจร ถ้าคุณไม่เคยอ่านนวนิยายคลาสสิคสมัยใหม่ของวิมล ไทรนิ่ม-นวล ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของหนัง คุณอาจนึกว่าฝ่ายหนึ่งคือธรรมและอีกฝ่ายคืออธรรม และสองคนนี้จะต้องซัดกันเพื่อแก่งแย่งวิญญาณของหมู่บ้าน แท้ที่จริง เขาคือพันธมิตรในการร่วมมือกันส่งเสริมความเสื่อมทรามทางสังคม – ทั้งคู่เป็นเครื่องมือของการกดขี่ เป็นหัวกับก้อยสนิมขึ้นของเหรียญเดียวกันเดิมๆ ที่คนไทยทุกคนคุ้นเคย ส่วนพระเอกที่เป็นแชมป์มวยนั้นอยู่ที่อื่น – ในคุกข้อหาฆ่าคนตาย ความซื่อตรงบวกความโกรธคือส่วนผสมอับโชคที่พาเขาไปอยู่ตรงนั้น เรารู้จักความสิ้นหวังของพระเอกเป็นอย่างดี : ความเป็นไปไม่ได้ของการอยู่รอดในโลกอันฟอนเฟะและเต็มไปด้วยเลศนัย เมื่อ “คุณงามความดี/ ความถูกต้องคืออัปลักษณ์เสื่อมทราม และอยุติธรรมอันอัปลักษณ์เสื่อมทรามคือธรรม” (ตามคำสาปแช่งของแม่มดเชคสเปียร์)
เช่นเดียวกับหนังทุกเรื่องที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมอันเป็นที่รัก แฟนๆ ของวิมลอาจเห็นว่ามันขาดพลังเข้มข้นของต้นฉบับ (แม้ว่าวิมลเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมสร้างภาพยนตร์) คนมักมากอาจโหยหิวความสยองขวัญมากกว่านี้ ในขณะที่คนมักน้อยอาจโหยหาเสียงธรรมชาติและการพักหูจากดนตรีประกอบแสนหวาน ซึ่งปูพรมแทบทั้งเรื่อง แต่เราไม่สามารถปฏิเสธความกล้าหาญและความจริงใจในการนำเสนอภาพชีวิตไทยไทยอันมืดมนของ ‘งู’ ให้คิดเสียว่าเพลงขลุ่ยประกอบเมืองไทยแสนงามดังกล่าวนั้น เขาตั้งใจใช้มันเพื่อแดกดันความเป็นไทยแบบกระทรวงวัฒนธรรม
กลุ่มสาวๆ และนางทั้งหลายที่อุทานว่า “หล่อจังเลย” ครั้งแรกที่เห็นสมภารใหม่ ; ความพยายามของพระที่จะรีดไถเงินบริจาคต่อหน้าเชิงตะกอนที่กำลังเผาศพครูของพระเอก ; ความตะกละตะกรามอันไร้ที่สิ้นสุดของแม่พระเอกที่จะยกระดับตนเองในชาติหน้าโดยการทำบุญกับวัดอย่างไร้สติทั้งที่ตัวเองยากจน ; ขบวนแห่ศพริมน้ำตอนรุ่งสาง (หรือย่ำค่ำ) สิ่งเหล่านี้ติดตาเรา แต่น่าสนใจที่สุดคือฉาก ‘แย่งผัว’ – สถานการณ์ยอดฮิตในละครไทยน้ำเน่าซึ่งไม่ห่างไกลจากความเป็นจริง ยกเว้นว่า ‘เมียน้อย’ ในกรณีนี้คือสมภารรูปงามที่ติดสินบนคนที่เป็นพ่อและผัวให้ครองผ้าเหลืองต่อไปอย่างไร้กำหนดในฐานะ ‘เลขา’ การบีบให้พระสึกเป็นบาปหนัก “เดี๋ยวตกนรกนะ” ใครคนหนึ่งเตือนเมียหลวง ขณะที่เธอออกจากบ้านไปฉะกับสมภารในรังงู คำตอบปากกล้าของเธอคือ “ถ้านรกอยากกินหัวฉันก็ให้มันกินไป ฉันจะไม่ยอมเสียผัวให้พระ” ว่าแล้วสมภารก็เรียกนางว่า ‘มารศาสนา’ และเทศน์ให้ฟังถึงเจ้าชายสิทธัตถะที่สละทิ้งลูกเมียเพื่อการหลุดพ้นจนบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้า สามีของหล่อน (และผัวของอาตมา) น่ะหวังนิพพานเชียวนะ – ท่านเทศน์ เราปรบมือให้คำแถลงอันยิ่งใหญ่และอาจหาญของเธอ : “ฉันจะเป็นทั้งพ่อและแม่และพระให้ลูกฉันด้วย” แต่เรารู้อยู่แก่ใจว่า สังคมไทยส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับพระองค์นี้ – กับงูที่ฉกทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา (อลิศกินเห็ด)
กำกับ-เขียนบท-ตัดต่อ : แจ๊สสยาม
ช่างภาพ : เจน บูรพา
เทคนิคพิเศษ : น้อย กรวิชญ์
นำแสดง : อภิชาติ จีนประชา, นนท์ รัชชานนท์, นันทพงษ์ อุลิศ,พศวัต เล็กสัมมา, พอเจตตน์ แก่นเพชร, ไกรลาศ เกรียงไกร, โกวิท วัฒนกุล, รัตน์ฟ้า วีรยุพรัตน์, น้ำริน พรมหลวง, ลลิตา ไพศาล
อำนวยการสร้าง : แจ๊สสยาม, ลัดดา เอี่ยมสินธร, นัทญา เฑียรประยูร
วัน | เวลา |
---|---|
Wed 18 Mar | 17:00 |