ปิด จันทร์ - อังคาร

2561:หิมพานต์ – ปิยทัต เหมทัต

แกลเลอรี่ โอเอซิส  

หอศิลป์ล้ำมิติกลางเมือง

ภูมิใจเสนอ งานแสดงปฐมฤกษ์

งานแสดงศิลปะรูปปั้นสำริดและภาพถ่าย

หิมพานต์

โดย ปิยทัต เหมทัต

24 มีนาคม – 7 มิถุนายน 2561

นักสะสม สนใจงาน ติดต่อ
e-mail galerieoasis.bk@gmail.com

เราคาดหมายให้สวนเป็นดินแดนแห่งการสัมผัส : สี, กลิ่น, น้ำ, นกร้อง  ในนานาตำนาน สวรรค์คือสวน – อีเดน, เอลิสเซียม, หิมพานต์  แต่ปิยทัต เหมทัต ก้มหน้าก้มตาสร้างงานในสวนสวรรค์เพื่อบันดาลสวนแห่งจิตวิญญาณที่ค้นหาหนทางหลุดพ้นจากการจองจำของรูปรสกลิ่นสี  แม้กระนั้น ความกอธิคแต่เซนของหิมพานต์ป่านี้หอมฟุ้งด้วยกลิ่นควันของพืชศักดิ์สิทธิ์  ที่หมอผีทุกยุคทั่วโลกเรียกว่า ‘ครู’  อบอวลออกมาจากบ้องสำริดซึ่งหัวเคลิ้มฝันสีเขียว, สีดำ และทองสามหัวกำลังจิบอย่างครุ่นคิด

ทั้งที่ผลงานผลิตขึ้นมาอย่างละเมียดละไมโดยเทคนิคคลาสสิค  รูปปั้นสำริดเหล่านี้มีความเรียบง่ายและความขลังดังโบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์จากอีสานยุคสำริด (บรอนซ์เอจ) ซึ่งไม่น่าแปลกใจ  เพราะถึงแม้ว่าศิลปินจะหล่อหลอมฝีมือมาจากประเพณีการช่างของตะวันตก  เขาได้รับการฝึกฝนด้านงานสำริดที่อุบลฯ ดินแดนที่เต็มไปด้วยร่องรอยของอารยธรรมโบราณกาล

และแม้ว่ารูปปั้นเหล่านี้จะเป็นวัตถุของแข็ง  มันกลับพาเราไปสู่มิติแห่งอากาศธาตุ  ไม่ใช่แห่งความเพ้อฝันแต่แห่งความจริงเหนือโลก : อสรพิษแห่งสวนอีเด็นที่ทั้งเย้ายวนและชวนแขยง  แปลงร่างเป็นมือกวักเรียกและลูกกะตาที่จ้องมอง ; ‘สมองงู’ ที่ยั้วเยี้ยและ ‘หัวใจงู’ ที่งอกเงย ; ‘บ้องแอปเปิ้ล’ ที่ผู้ใช้ต้องดูดควันออกมาจากปากช่องคลอด – ประตูที่เราทุกคนผ่านเข้ามาสู่โลกนี้ ; ทรงคล้องสร้อยนาคปรกห้าเศียร (อายตนะทั้ง5)  องค์พระศิวะหยิบยื่นดวงจิตสำนึกให้เรารู้ชั่วและดี  แก่โลกที่ใส่ร้ายป้ายสีกัญชา – ของขวัญจากหิมาลัยที่ท่านประทานมาช่วยเบิกตาที่สามของมวลมนุษย์ – เป็นดั่งผลไม้ต้องห้าม

ปมย้อนแย้งที่บิดขดตัวของมันผ่านจิตและสองมือของศิลปินรวบสรุปอยู่ใน ‘ลิงไล่หางงู’  เมื่อย้อนกลับสู่สภาพดิบเดิมของตนในวันเริ่มแรกของการผจญภัยกับเทคโนโลยี  ขณะที่เขายืนมองหางงูที่กำลังเลื้อยจากไป  ต้องถามว่าไม่ในมือของมนุษย์วานรนั้น  เป็นอาวุธหรือว่าไม้เท้าของนักแสวงบุญ?  เขาช่างดูพิศวง  ราวกับถูกสะกดด้วยความไม่กล้าตัดสินใจ :  เขาอาจวิ่งหาความรู้ต้องห้ามนั้น  หรือเพียงแค่ไล่ตามสมองส่วนสัญชาตญาณอันเป็นมรดกจากรากเหง้าที่เคยเป็นสัตว์เลื้อยคลาน  หรือว่าเขาอาจกำลังไล่มันไปให้พ้น  และหมิ่นเมินความใคร่รู้ที่จะผลักดันให้เขาพิชิตโลก  พลางเข่นฆ่าความบริสุทธิ์ของตัวเอง  แต่ผลไม้ต้องห้ามจากหิมพานต์ของพระศิวะนำมาซึ่งการหลุดพ้น  ละลายเขาออกจากบ่วง  มานอนห้อยหัวและสุดท้ายจางหายไป แน่นอนว่า  ในโลกวัตถุแห่งโสตสัมผัส  การตรัสรู้ย่อมเป็นผลไม้ต้องห้ามสำหรับเรา

ปิยทัต : “ถ้าเราไม่ได้ลิ้มรสแอปเปิ้ลของแม่อีฟ  เราก็จะไม่มีความคิดสร้างสรรค์  ไม่มีอาวุธ  และไม่มีศิลปะด้วย  เราถูกลงโทษตกจากสวรรค์  แต่ความรู้ต้องห้ามก็อาจสิงสู่เราด้วยสัจธรรม นำพาให้เราปลดปล่อยตัวเองจากบ่วงทั้งหลายทั้งปวง

ปิยทัต เหมทัต (เกิด 2519 ที่กรุงเทพ) สำเร็จปริญญาตรีวิจิตรศิลป์จากวิทยาลัยลอนดอนซิตี้และกิลด์  และปริญญาโทด้านทัศนศิลป์จากวิทยาลัยศิลปะเชลซี  แม้ว่า ‘หิมพานต์’ จะเป็นการแสดงศิลปะรูปปั้นครั้งแรกของเขา  ผลงานภาพถ่ายของเขาแสดงทั่วโลกและสะสมอยู่ในคอลเล็คชั่นของนักสะสมศิลปะ  รวมทั้งมิวเซียมสยาม และ มูลนิธิน็อทไวทัลที่สวิสเซอร์แลนด์